Page 8 - คู่มือการปรับปรุงคุณภาพอากาศ By FlipMag.net
P. 8
1. Obligated airborne transmission
เช้อโรคใช้วิธีการแพร่กระจายทางอากาศเป็นวิธีหลัก โรคท่มีหลักฐานว่า
ื
ี
ี
้
แพร่กระจายแบบน คือวัณโรค โดยเฉพาะวัณโรคปอดและกล่องเสียง นอกจากน ้ ี
Measles, เชื้อรากลุ่ม Aspergillus spp และ Rhizopus spp.. อาจจัดอยู่ในกลุ่มนี้
เนื่องจากมีหลักฐานชัดเจนว่ามีการแพร่กระจาย ทางอากาศเป็นช่องทางหลัก
2. Preferential airborne transmission
ื
เช้อโรคในกลุ่มน้สามารถแพร่กระจายได้หลายวิธี แต่หากแพร่กระจายทาง
ี
อากาศหรืออยู่ในรูป aerosol และเข้าไปสะสมในส่วนปลายของปอดแล้ว จะท�าให้
ื
เช้อโรคแพร่กระจายไปท่วร่างกายและมีการดาเนินโรคเต็มรูปแบบ (full - blown
ั
�
้
ื
ี
disease) เช้อโรคในกลุ่มน ได้แก่ Varicella - Zoster, Smallpox, เช้อรากลุ่ม
ื
Acremonium spp. ส�าหรับไข้หวัดใหญ่ และไข้หวัดนก (Influenza A H5N1) ก็มี
หลักฐานว่าน่าจะอยู่ในกลุ่มนี้โดยเฉพาะไข้หวัดนก Influenza A H5N1 นั้น พบว่ามี
ี
�
ื
ตัวรับเช้อ (receptor) อยู่ท่ส่วนปลายของปอด และมีการแบ่งตัวของไวรัสในตาแหน่ง
นั้นด้วยเชื้อโรคในกลุ่มนี้หากแพร่กระจายโดยวิธีอื่น ความรุนแรงของโรคจะลดลง
3. Opportunistically airborne transmission
ื
ี
ื
เช้อโรคในกลุ่มน้ตามธรรมชาติจะแพร่กระจายโดยวิธีอ่น แต่ในบาง
ื
สภาวการณ์ เช่น การทาให้เช้อโรคอยู่ในรูปของ aerosol และถูกสูดดมเข้าไปใน
�
ส่วนปลายของปอดกจะก่อให้เกดโรคได้ เช้อโรคท่น่าจะอยู่ในกลุ่มน ได้แก่ SARS
ี
้
ี
็
ิ
ื
Corona Virus และกลุ่มของ Viral hemorrhagic fever ได้แก่ Ebola, Lassa,
Marburg, Hanta
4 คู่มือการปรับปรุงคุณภาพอากาศภายในอาคารสถานพยาบาล