Page 12 - คู่มือการปรับปรุงคุณภาพอากาศ By FlipMag.net
P. 12
�
ี
ื
- การควบคุมการแพร่กระจายโรคท่จุดกาเนิดของการแพร่เช้อโรค (Source control Measures)
ประกอบด้วย ตัวผู้ป่วย สารคัดหลั่งและสิ่งส่งตรวจที่มีเชื้อวัณโรค ส�าหรับตัวผู้ป่วยควรให้สวมหน้ากากอนามัยเสมอ
ื
หากไม่มีอาการเหน่อยหอบและให้สุขศึกษาผู้ป่วยในเร่อง ข้อควรปฏิบัติขณะไอจามการทาความสะอาดมือและ
ื
�
หลีกเลี่ยงการปนเปื้อนสิ่งแวดล้อม ส�าหรับสารคัดหลังและสิ่งส่งตรวจผู้บริหารต้องจัดให้มีห้องปฏิบัติการที่ปลอดภัย
ี
ื
ี
และมีอุปกรณ์ท่ป้องกันการแพร่กระจายเช้อ ได้แก่ Biosafety cabinet รวมท้งการปฏิบัติท่ถูกต้องตามหลักการ
ั
infection control ในห้องปฏิบัติการด้วย
- มีป้ายเตือน (Poster alert) ให้ผู้ป่วยแจ้งเจ้าหน้าท่ของโรงพยาบาลหากมีอาการเข้าข่ายป่วยเป็น
ี
วัณโรค ป้ายดังกล่าวควรมีอยู่ตามจุดต่าง ๆ ของโรงพยาบาล เช่น จุดคัดกรองแผนกผู้ป่วยนอก หอผู้ป่วยใน เป็นต้น
- ให้ความส�าคัญเรื่องการท�าความสะอาดมือทั้งบุคลากร ผู้ป่วย ผู้รับบริการ และญาติ
- มีการบริหารจัดการเรื่องขยะติดเชื้ออย่างเหมาะสม
ี
่
ั
ุ
่
ี
ี
5. จดการอบรมบคลากรการแพทย์และบุคลากรทเกยวข้องในสถานพยาบาล มหัวข้อการอบรม
ประกอบด้วย ความรู้เกี่ยวกับวัณโรค การวินิจฉัย การรักษา การป้องกันการติดเชื้อและแพร่กระจายเชื้อ ทั้งนี้ให้แบ่ง
กลุ่มการอบรมตามพ้นฐานความรู้และภารกิจ นอกจากการฝึกอบรมภาคทฤษฎีแล้วยังต้องมีการฝึกปฏิบัติในกิจกรรม
ื
ื
�
ี
ิ
ท่เก่ยวข้องตามภารกิจ ได้แก่ การใช้เคร่องป้องกันร่างกาย การทาความสะอาดมือ การทาความสะอาดส่งแวดล้อม เป็นต้น
�
ี
ื
�
6. การให้สุขศึกษาแก่ผู้ป่วยและญาติมีประเด็นสาคัญคือ การกินยาและรับการรักษาอย่างต่อเน่อง
การป้องกันการติดเชื้อ การแพร่กระจายเชื้อ โดยใช้หลักการของ Respiratory hygiene and cough etiquette
ดังที่กล่าวในเบื้องต้น การก�าจัดขยะติดเชื้อ การท�าความสะอาดมือและสิ่งแวดล้อม
7. การจดบรการและสถานทให้บรการผ้ป่วยนอก ใช้หลกการคอ มช่องทางด่วน (Fast tract) และ
ั
ู
ี
่
ิ
ี
ิ
ั
ื
การบริการท่จุดเดียว (One stop service) ในส่วนของช่องทางด่วนให้ครอบคลุมผู้ป่วยรายใหม่และผู้ป่วยท่มาติดตาม
ี
ี
การรักษาส่วนการบริการท่จุดเดียวประกอบไปด้วย การซักประวัติผู้ป่วยสงสัยวัณโรค ตรวจรักษา การเก็บเสมหะ
ี
�
ี
การเอ็กซเรย์ (ถ้าปฏิบัติได้) การรับคาแนะนาสุขศึกษา การนัด การจ่ายยาและการจ่ายเงินสถานท่ให้บริการผู้ป่วยนอก
�
ิ
ื
อาจใช้ระบบการระบายอากาศและจดการอากาศแบบธรรมชาต แบบการใช้เคร่องกล หรือแบบผสมผสาน
ั
(รายละเอียดในบทที่ 4 การควบคุมสิ่งแวดล้อม) โดยมีหลักการคือ ลดการแพร่กระจายเชื้อและติดเชื้อ ลดระยะเวลา
การสัมผัสกับบุคลากรและผู้ป่วยอื่น
8. การรักษาแบบผู้ป่วยใน ผู้ป่วยวัณโรคที่จะต้องรับไว้เป็นผู้ป่วยใน ประกอบด้วย ผู้ป่วยที่อยู่ในระยะ
ี
ื
ึ
การแพร่กระจายเช้อและหรือมีภาวะท่ทาให้ต้องรับไว้รักษาในโรงพยาบาล เช่น อยู่ในภาวะวิกฤตก่งวิกฤต หรือม ี
�
โรคแทรกซ้อนที่อาจเป็นอันตราย ห้องที่รับผู้ป่วยที่ดีที่สุดคือห้องแยกเดี่ยว ซึ่งมีการจัดการอากาศที่ถูกต้องตามหลัก
วิศวกรรมและสถาปัตยกรรม คือ Airborne infection isolation room: AIIR อย่างไรก็ตามหากมีห้อง AIIR ไม่เพียงพอ
หรือไม่มีห้อง AIIR อาจใช้ห้องเด่ยว (Single room) มพัดลมดดอากาศท่ทาให้ทิศทางการไหล ของอากาศในห้อง
ี
ู
ี
�
ี
ไหลจากบุคลากรสู่ผู้ป่วยและท้งสู่ภายนอก อัตราการหมุนเวียนของอากาศในห้องไม่น้อยกว่า 12 เท่าของปริมาตรห้อง
ิ
ี
ต่อช่วโมง กรณีท่ใช้ห้องผู้ป่วยท่มีหลายเตียงต้องแน่ใจว่าผู้ป่วยไม่อยู่ในระยะแพร่กระจายเช้อแล้ว และควรมีพัดลม
ั
ื
ี
ื
ดูดอากาศท่หัวเตียงของผู้ป่วยทุกคนด้วย หอผู้ป่วยวัณโรคต้องมีแนวปฏิบัติท่ลดการติดเช้อและแพร่กระจายเช้อ
ี
ื
ี
8 คู่มือการปรับปรุงคุณภาพอากาศภายในอาคารสถานพยาบาล

