Page 89 - คู่มือการปรับปรุงคุณภาพอากาศ By FlipMag.net
P. 89

ก�รป้องกันก�รแพร่กระจ�ยเชื้อ (Isolation Precautions)


                                                              ื
                                                                               ึ
                                   ี
                                     ี
                      ในระยะเวลาไม่ก่ปีท่ผ่านมา เราพบการระบาดของเช้อโรคติดต่อใหม่ๆ เกิดข้นหลายชนิดไม่ว่าจะเป็นโรคซาร์ หรือ
             โรคไข้หวัดนก โรค Middle East respiratory syndrome coronavirus (MERS - CoV) อีกทั้งยังพบโรคใหม่ๆ ที่เราไม่เคย
             รูจักมาก่อนในอดีตอีกหลายชนิดค่อยๆ เผยโฉมออกมา ขณะเดียวกันโรคติดต่อบางชนิด เช่น วัณโรค โรคลีเจียนแนร์ และ
                                                                                                 ี
                                                                                         ั
                                                    ี
             ไวรัสไข้หวัดใหญ่ ท่มีแนวโน้มการแพร่กระจายท่ลดลงในอดีต ก็กลับมาเกิดการระบาดใหม่อีกคร้งจนเป็นท่น่าจับตามอง
                             ี
                                                ี
             ปัจจัยประการหน่งท่อาจกล่าวได้ว่าเป็นปัจจัยท่เอ้อและส่งเสริมให้เกิดการขยายตัว และแพร่กระจายของเช้อโรคต่างๆ เหล่าน ้ ี
                                                  ื
                                                                                            ื
                           ึ
                             ี
                                  ื
                            ่
                                                    ั
                            ี
                                            ั
                                  ้
                                                  �
                      อย่างททราบเบองต้นว่า หลกการสาคญในการป้องกนและควบคมการแพร่กระจายเช้อโรค ในสถานพยาบาล
                                                                                         ื
                                                               ั
                                                                         ุ
             มี 3 ประการ คือ
                                                                                                 ี
                                                                                                        �
                      1.  การบริหารจัดการภายในสถานพยาบาล (Administrative Controls) ซ่งเป็นมาตรการพ้นฐานท่มีความสาคัญ
                                                                               ึ
                                                                                            ื
             มากที่สุดในการลดความเสี่ยงของการแพร่กระจายเชื้อในสถานพยาบาล
                      2.  การควบคุมสิ่งแวดล้อม (Environmental Controls) มีความส�าคัญเป็นล�าดับที่ 2 ในการป้องกันการติดเชื้อ
             ภายในสถานพยาบาล
                      3.  การใช้อุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล (Respiratory - Protection Controls) โดยพบว่าเมื่อมีการควบคุมโดยวิธี
             การทั้ง 2 อย่างข้างต้นแล้ว สิ่งแวดล้อมในสถานพยาบาลก็จะปนเปื้อนด้วยเชื้อโรคที่แพร่กระจายทางอากาศน้อยลง
                                                                                           ้
                                                                                   ่
                                    ่
                                           ่
                      ตามหลักการพบวาการแพรกระจายของเชื้อจุลชีพในสถานพยาบาลสามารถแพรกระจายได 3 ทาง คือ การสัมผัส
                                                                                     ึ
             (contact) ทางอากาศ (airborne) และทางฝอยละออง (droplet) โดยท่เช้อจุลชีพชนิดหน่งอาจแพร่กระจายได้มากกว่า
                                                                         ื
                                                                       ี
             1 ช่องทาง (Hierholzer, 1996) ดังนั้นในการควบคุมการแพร่กระจายเชื้อในสถานพยาบาล ผู้ปฏิบัติงานจึงจ�าเป็นต้องเข้าใจ
             กลไกการแพร่กระจายของเชื้อจุลชีพแต่ละชนิดด้วย
                                        ื
                      1.  การแพร่กระจายเช้อโดยการสัมผัส (contact transmission) เป็นวิถีทางการแพร่กระจายเช้อท่พบได้บ่อย
                                                                                                   ี
                                                                                                 ื
             ที่สุด ซึ่งอาจเป็นได้ทั้งทางตรง (direct contact) การสัมผัสเชื้อจากเสมหะ น�้ามูก น�้าลายของผู้ป่วย หรือทางอ้อม (indirect
                                                                      ื
             contact) เช่น การแพร่กระจายเช้อจากการใช้อุปกรณ์ร่วมกันหรือติดเช้อจากของท่เด็กเล่นร่วมกัน หรือเกิดจากการแพร่
                                         ื
                                                                               ี
             กระจายเชื้อผ่านมือของบุคลากรทางสุขภาพที่ไม่ได้ท�าความสะอาดมือหลังมือปนเปื้อนเชื้อจุลชีพ (Pittet et al., 2006)
                      2.  การแพร่กระจายเชื้อทางฝอยละออง (Droplet transmission) เกิดจากการผู้ที่มีเชื้อโรคในทางเดินหายใจ ไอ
             จามหรอพด หรอระหว่างการทากจกรรม เช่น ดดเสมหะ การใส่ท่อช่วยหายใจ เป็นต้น ทาให้เกดการฟ้งกระจายของฝอย
                                                   ู
                                                                                   �
                   ื
                                                                                              ุ
                          ื
                     ู
                                      �
                                        ิ
                                                                                        ิ
             ละอองเชื้อจุลชีพที่มีขนาดมากกว่า 5 ไมครอน ส่วนใหญ่มักจะกระจายไปไกลจากแหล่งก�าเนิดไม่เกิน 3 ฟุต แต่บางกรณีอาจ
                                                                                ี
             ฟุ้งกระจายไปได้ไกลถึง 6 ฟุต ข้นอยู่กับวิธีและความแรงของการ ฟุ้งกระจาย เช้อจุลชีพท่แพร่กระจายทางฝอยละอองอากาศ
                                                                         ื
                                     ึ
                                            ี
             เช่น โรคติดเช้อระบบทางเดินหายใจท่เกิดจากเช้ออะดิโนไวรัส (Adenovirus, respiratory) โรคหลอดลมฝอยอักเสบ
                                                    ื
                         ื
             (Bronchiolitis) โรคหลอดลมอักเสบ (Bronchitis) โรคครูป (croup) หรือโรคกล่องเสียงและหลอดลมใหญ่อักเสบเฉียบพลัน
             โรคฝาปิดกล่องเสียงอักเสบ (Epiglottitis) โรคปอดอักเสบจากเช้อมัยโคพลาสมา (Mycoplasma pneumonia) โรคปอดบวม
                                                              ื
             (Pneumonia) Hemophilus influenza, กาฬโรคปอด (Plague - pneumonic) หัดเยอรมัน (Rubella) คางทูม (Mumps)
                                                                                       ื
                                                        ื
             ไอกรน (Pertussis) ไข้หวัดใหญ่ (Influenza) โรคเย่อหุ้มสมองอักเสบ (Meningitis) โรคเย่อหุ้มสมองอักเสบจากไวรัส
             (Viral meningitis) ไข้กาฬหลังแอ่น (Meningococcal infection) เป็นต้น
                                                                                                          ี
                      3.  การแพร่กระจายเช้อทางอากาศ (airborne transmission) เกิดจากแหล่งโรคพ่นฝอยละอองอากาศท่ม        ี
                                        ื
             เช้อจุลชีพปนเปื้อนออกมา โดยท่ขนาดของฝอยละอองอากาศจะต้องมีขนาด ≤ 5 ไมครอน จึงสามารถล่องลอยอยู่ในอากาศได้
                                      ี
               ื
                                          ื
                                       ี
                                                                                ั
                                                     �
             และถ้ามีลมจะช่วยพยุงอากาศท่มีเช้อโรคเกาะติดทาให้ลอยอยู่ในอากาศได้นานเป็นช่วโมงหรือเป็นวัน และไปได้ไกลจาก
             แหล่งก�าเนิดมากกว่า 3 ฟุต เชื้อจุลชีพที่แพร่กระจายทางอากาศ เช่น วัณโรคปอด (Pulmonary TB) วัณโรคนอกปอดชนิด
                      ั
             มีสารคัดหล่งออกจากร่างกาย หัด (Measles) สุกใส (Chickenpox) งูสวัดและเริมแบบแพร่กระจาย (Disseminated herpes
             zoster and Disseminated herpes simplex) โรคทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง (Severe Acute Respiratory
             Syndrome: SARS) โรคทางเดินหายใจตะวันออกกลาง หรือโรคเมอร์ส (Middle East Respiratory Syndrome: MERS)
                                           ึ
                                                         ี
             และโรคไข้หวัดนก (Avian Influenza) ซ่งโรค 5 ชนิดหลังน้ต้องใช้แนวทางการปฏิบัติตามหลัก Contact precautions ร่วมด้วย
                                                            คู่มือการปรับปรุงคุณภาพอากาศภายในอาคารสถานพยาบาล  85
   84   85   86   87   88   89   90   91   92   93   94